วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

คู่หู Trouble Maker อวดซิงเกิ้ลใหม่ Now (내일은 없어) สุดร้อนแรง

เชื่อว่าน่าจะเป็นการกลับมาที่สร้างความฮือฮาอีกรอบของสองคู่ร้อน ฮยอนฮา และ ฮยอนซึง แห่งยูนิต ที่ส่งซิงเกิ้ลคัมแบ็คในเพลง Now (내일은 없어) ก่อนจะตามมาด้วยมิวสิควิดีโออันร้อนแรงถึงขนาดที่ต้องแปะคำแนะนำ 19+ สำหรับผู้ชมที่มีอายุ 19 ปีขึ้นไปเท่านั้นอีกด้วย
และความร้อนแรงของมิวสิควิดีโอนี้เอง ที่ทำให้เกิดกระแสต้อนรับการคัมแบ็คของพวกเขาที่กำลังร้อนแรงอยู่บนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะภาพใน MV ของทั้งคู่ที่ดูเซ็กซี่และสมจริงอย่างมากในฉากเข้าพระเข้านาง มีหลายฉากที่ ฮยอนอา แปลงร่างเป็นสาวซ่าส์เมามายรายล้อมไปด้วยขวดเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ต้องยกความดีให้กับต้นสังกัดคือ Cube Entertainment ที่สร้างโปรดักชั่นของมิวสิควิดีโอออกมาได้สวยงามจนมองข้ามความเป็นอนาจารไปได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งหลังจากเปิดตัวไปเพียง 16 ชั่วโมงบนยูทิวบ์ ยอดวิวจากผู้ชมก็ทะลุหลักล้านไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนโชว์เปิดตัวคัมแบ็คอย่างเป็นทางการของทั้งคู่ทางรายการ Show Champion จะมีขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคมนี้
Trouble Maker คือยูนิตรวมตัวกันของ ฮยอนอา แร็พเปอร์สาวแห่งวง 4 Minutes และ ฮยอนซึง จากวงBeast โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จกับงานเดบิวต์มินิอัลบั้มเมือปี 2011 ซึ่งครั้งนั้น ทั้งคู่สร้างความฮือฮาให้ผู้ชมอ้าปากค้างด้วยการจูบปากกันบนเวทีต่อหน้าผู้ชมในงาน Mnet Asian Music Awards ในปีเดียวกัน

ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook

วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แย่งกัน Steal! โค้ชเก็บลูกทีมใหม่เข้าคอกกันเปรม ใน The Voice Thailand Season 2

สัปดาห์ที่ 2 ของรอบ Battle ใน  เข้มข้นขึ้นอีกระดับกับการประชันเสียงและการคว้าตัวผู้แพ้กลับมาอยู่ต่อในรายการอีกครั้งกับกติกา Steal ที่ทำให้รายการเข้มข้นขึ้น การดวลไมค์ของผู้เข้าแข่งขันทั้ง 4 ทีมในสัปดาห์นี้ มีหลายคู่ที่น่าจับตาและหลายคนที่น่าเสียดายเมื่อไม่ได้รับโอกาสในการ Steal จากโค้ช ขณะเดียวกันก็มีผู้ที่สมหวังได้อยู่ต่อไปในการแข่งขันอีกหลายคนเช่นกัน
แค่เพียงคู่แรกความขลังก็ปกคลุมรายการทันที เมื่อสองสาวเสียงสไตล์คลาสสิคัล โอปอล์ อชิรญาณ์ ศุภลักษณ์นารี และ ปูเป้ ภาณุนาถ บุญฤทธิ์โชค ลูกทีมของโค้ชคิ้ม มาร่ายเวทมนตร์ใส่กันในเพลงร็อค Bring Me To Life ที่ความเป็นนักร้องคลาสสิคของพวกเธอปลุกบรรยากาศแบบกอธิคในรายการได้อย่างน่าสนใจจนถูกยกให้เป็นโชว์ที่ดีที่สุดอีกโชว์หนึ่งประจำสัปดาห์ ทว่าความนิ่งของ โอปอล์ ที่คุมเพลงได้อยู่หมัด ทำให้โค้ชคิ้มต้องตัดสินใจเก็บเธอไว้ในรอบ Knock Out 
           
อีกหนึ่งโอปอล์แต่เป็นโอปอล์ฉบับชายหนุ่ม ประพุทธ์ พิมพามา และ อ้น กันณพงศ์ ธาระเขตร์ จากทีมโค้ชก้อง เอาความนุ่มนวลมาสู้กันในรอบนี้ด้วยเพลง อยู่ต่อเลยได้ไหม ซึ่งหนุ่มอ้นนั้นดูจะหวาดหวั่นคู่แข่งตั้งแต่ตอนซ้อม เพราะออกมาพูดติดตลกว่า โอปอล์ หล่อกว่า ใส่กว่า แถมผมยังยาวกว่า ซึ่งความต่างของทั้งคู่คือฝั่งโอปอล์นั้นมีลูกเล่นลื่นไหลและทำอะไรได้อีกมากมาย ขณะที่ อ้น ก็มีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง ซึ่งโค้ชก้อง ต้องเลือก โอปอล์ ที่ทำได้เป๊ะกว่า แต่ก็เป็นที่น่ายินดีที่ โค้ช โจอี้ บอย ตัดสินใจ Steal อ้น เข้าทีม ด้วยเหตุผลที่อยากให้อยู่ต่อคือชอบในสไตล์และน้ำเสียงนั่นเอง 
มาที่ลูกทีมระดับพระกาฬของโค้ชโจอี้ บอย ที่ได้ชื่อว่าเป็นทีมจอมเทคนิคที่มักจะหาอะไรแปลกๆ ให้ลูกทีมทำตลอดเวลา สัปดาห์นี้ถึงคิวของ กิต กิตตินันท์ ชินสำราญ และ เบ็น ปัณจภรณ์ เอี่ยมวิจารณ์ กับเพลงTime of My Life ความน่าสนใจของคู่นี้คือเมื่อนักร้องโอเปร่ามาพบกับสาวสไตล์แจ๊สก็ว่าแปลกแล้ว แต่ทั้งคู่ยังต้องมาแบทเทิลกันด้วยหมัดเด็ดคือการแร็พอันน่าทึ่ง ซึ่งฝีมืออันไร้เทียมทานก็ทำให้ทั้งคู่ยังได้อยู่ต่อในรายการ โดยโค้ช โจอี้ บอย เลือก กิต ที่ประสบการณ์เหนือกว่า แต่ความไม่ธรรมดาของ เบ็น ก็เป็นสิ่งที่เข้าตาโค้ช แสตมป์ ให้กด Steal โดยไม่ลังเล
ไฮไลท์ที่หนุ่มๆ รอคอยในสัปดาห์นี้ หนีไม่พ้นคู่ของ ตุ๊กตา The Voice จมาพร แสงทอง และ ปลา สุชยา ทองตัน ลูกทีมโค้ชแสตมป์ที่นอกจากจะต้องห้ำหั่นกันที่ความน่ารักแล้ว การร้องของทั้งคู่ที่มีสไตล์ต่างกันก็ยังจะต้องทำให้พิชิตใจโค้ชให้มากที่สุดด้วยในเพลง ไม่บอกเธอ ซึ่งก็ไม่ผิดคาดเมื่อ ตุ๊กตา ยังได้โอกาสแข่งต่อไปในรอบ Knock Out สมใจหนุ่มๆ และแฟนๆ ที่คอยให้กำลังใจเธออย่างท่วมท้น
อีกหนึ่งคู่ปรับเสียงใสจากทีมโค้ช โจอี้ บอย อย่าง ฝน วารุณี จันทรศิริรังษี และ วอลนัท สายทิพย์ วิวัฒนปฐพี ก็สะกดผู้ชมได้ไม่น้อยในเพลง แค่คุณ ที่พลังในการโหนเสียงสูงไม่มีใครกินกันลง แถมยังมีลูกเล่นไทยเดิมที่สร้างความฮือฮาตามสไตล์โค้ชในตอนท้าย โชว์ของทั้งสองสาวจึงเป็นอีกโชว์หนึ่งที่ปฏิเสธไม่ลง แต่หนึ่งเสียงที่ต้องถูกปฏิเสธไปในรอบนี้คือ วอลนัท ที่ต้องจากเวที The Voice ไปก่อนเวลาอันควร
คู่เอกประจำสัปดาห์ยังหนีไม่พ้นขาร็อคของทีม โค้ชแสตมป์ ที่จับลูกทีมมาห้ำหั่นกลางเวทีได้อย่างมีรสชาติไม่น้อยหน้าทีมร็อคของโค้ชก้อง ในสัปดาห์นี้ คู่หูพระกาฬที่หนีกันไม่พ้นอย่าง ต้า คีตา อินทรสุต และ สงกรานต์ รังสรรค์ ปัญญาเรือน ซึ่งต้องมาขับเคี่ยวกันในเพลงร็อคที่สมบูรณ์แบบที่สุดของร็อคเมืองไทยอย่างเพลง ยอมแต่งานนี้ทั้งคู่จะยอมกันไม่ได้ การพ่นไฟใส่เสียงสูงของ ต้า กับความเป็นชาวร็อคจากภายในของ สงกรานต์ ทำโชว์ออกมาได้อย่างสะใจ ซึ่งที่สุดแล้ว โค้ชแสตมป์ เลือกความเป็นธรรมชาติและร็อคจากภายในของ สงกรานต์ ให้อยู่กับทีมต่อ แต่ความไม่ธรรมดาของ ต้า ทำให้โค้ชที่เหลืออีก 3 คน ถึงกับไม่รีรอที่จะแย่งกัน Steal เพราะไม่อยากให้เสียงคุณภาพแบบนี้ต้องจากรายการไป ก่อนที่สุดท้าย โค้ชก้อง จะสมหวังได้พลังร็อคเข้าไปร่วมทีมอีกหนึ่งคน  

ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook

เปิดใจโค้ชแสตมป์ : ลูกทีมผมไม่ใช่ดีว่าส์ แต่น่ารัก

เมื่อพูดถึงโค้ชทั้งสี่ท่านของ  นอกจากความฮาและการแลกมุกกันในรายการแล้ว สิ่งที่ทำให้ผู้ชมสนใจและชวนติดตามคือ ความแตกต่างในด้านการทำทีมของโค้ชแต่ละคน ซึ่งต่างก็มีสไตล์เฉพาะตัวตามความถนัดกันไป เมื่อเรานึกถึงโค้ชก้อง สหรัถ เราก็จะนึกถึงขุนพลชาวร็อคเต็มทีม หรือหากนึกถึงโค้ชเจนนิเฟอร์ คิ้ม ก็จะนึกถึงเหล่านักร้องเสียงพรสวรรค์ หรือถ้าเป็นทีมโค้ชโจอี้ บอย ก็จะนึกถึงคาแรคเตอร์ที่เป็นของตัวเองแบบสุดๆ และมีสไตล์ที่หลากหลายแต่พร้อมจะลุยและมันส์ได้ทุกเมื่อ
แต่สำหรับทีมโค้ช แสตมป์ อภิวัชร์ หลายคนอาจจะมองว่า นี่คือทีมที่เรียบง่ายที่สุดของ The Voice Thailandซึ่งหากมองจากภายนอกแล้ว สไตล์ของโค้ชแสตมป์เองก็อาจเป็นแบบนั้น ซึ่งโค้ชอารมณ์ดีก็ยอมรับว่า ลูกทีมของตัวเองแต่ละคนอาจไม่ได้มีพลังร้อนแรงเหมือนทีมคู่แข่ง แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนเข้ากันได้ดีคือ ความน่ารักในแบบของตัวเอง แฝงความเป็นอินดี้เล็กๆ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ทัศนคติที่ดีต่อการแข่งขัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้โค้ชแสตมป์กล้าพูดได้เต็มปากว่า ลูกทีมของเขาทุกคนไม่ใช่แค่นักร้อง แต่เป็น "ศิลปิน" และเป็นเสียงจริง ตัวจริง ไม่แพ้ผู้เข้าแข่งทีมอื่นๆ
ลองมาฟังโค้ชขวัญใจสาวๆ เล่าถึงลูกทีมของตัวเอง ที่มีทั้งสาวเสียงดีที่ทำให้คนไทยกว่าค่อนประเทศตกหลุมรักอย่าง ตุ๊กตา จมาพร แสงทอง และเป็นตัวเก็งของปีนี้ที่หลายคนจับตา, หนุ่มร็อคลูกชิ้นปิ้งมาดซื่อแต่จริงใจสงกรานต์เมย์ ฝนพา ว่าที่คุณแม่ที่รักการร้องเพลง เจ้าของแววตาที่มีแต่รอยยิ้มและความสุข รวมถึงเคมีที่ขับเคลื่อนกันอย่างลงตัวจนทำให้ทีมนี้ เป็นอีกหนึ่งทีมที่แฟนๆ The Voice Thailand เทกำลังใจเชียร์อย่างเต็มที่ รวมถึงการได้ ไก่ สุธี แสงเสรีชน คนดนตรีคุณภาพมาเป็นโค้ชผู้ช่วยที่ทำให้เจ้าตัวมั่นใจว่า ทีมของตัวเองปีนี้คุณภาพคับแก้วแน่นอน

ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตุ๊กตามาแล้ว! ลุ้นขวัญใจ The Voice Thailand Season 2 ดวลลูกคอรอบ Battle

กระแสรอบ Battle สัปดาห์แรกดีเกินคาด ทำให้หลายคนไม่อยากพลาดแม้แต่คู่เดียว จึงทำให้  ยังเป็นที่ตั้งตารอของผู้ชมในรอบ Battle อย่างเหนียวแน่น
ในวีคที่ 2 นี้ ใครที่รอคอยการขึ้นเวทีของขวัญใจ The Voice Thailand Season 2 อย่าง ตุ๊กตา จมาพร แสงทอง สมหวังแน่นอน เพราะสาวตุ๊กตา จะมาประชันกับสาวเสียงละมุน ปลา สุชยา ทองตัน ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของสัปดาห์เลยทีเดียว
ขณะที่อีกแมทช์ สองหนุ่มพลังร็อคคู่ Battle ในตำนานที่ทุกคนรอคอย หนุ่มร็อคมาดซื่อ สงกรานต์ รังสรรค์ ปัญญาเรือน จะมาดวลกับหนุ่มร็อคไฮเพาเวอร์ ต้า คีตา อินทรสูต ที่แลกวลีเพลงร็อคเชือดเฉือนกันอย่างได้อารมณ์
ติดตามชมความมันส์ระดับระอุเดือดของการ Battle กันได้ใน The Voice Thailand Season 2 อาทิตย์ที่ 27 ตุลาคมนี้ เวลา 17.45 – 19.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook


วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เผยทีเซอร์แรกต้อนรับการคัมแบ็คของ แทยัง (태양)

ทิ้งเพลงใหม่ Wedding Dress ไว้เป็นผลงานเดี่ยวตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วจนหลายคนอาจลืมไปว่า  (태양)คือหัวขบวนในการออกผลงานเดี่ยวของหนุ่มๆ BIGBANG จนกระทั่งล่าสุด ก็มีภาพที่หลุดอย่างเป็นทางการส่งสัญญาณคัมแบ็คแบบเดี่ยวๆ ของหนุ่มคนนี้ออกมาให้ฮือฮา
โดย YG-Life เว็บบล็อกอย่างเป็นทางการของ YG Entertainment ได้เผยภาพแรกของทีเซอร์โปรโมทที่คาดว่าน่าจะเป็นการคัมแบ็คของแทยังออกมาเป็นที่แรก ด้วยภาพขาวดำสไตล์เข้ม แต่มีผ้าสีดำคาดปิดอยู่ครึ่งใบหน้า ดูลึกลับและชวนค้นหาแบบแฝงความเท่ห์ในตัว
ทั้งนี้  ทาง YG Entertainment ยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคัมแบ็คในครั้งนี้มากนัก แต่คาดกันว่าทางต้นสังกัดจะปล่อยทีเซอร์คัมแบ็คตัวอื่นๆ ตามออกมาอีกในไม่ช้า

ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook

สดๆ ร้อนๆ! ทีเซอร์เปิดตัวซิงเกิ้ลใหม่ของ บอดี้สแลม

อีกนิดเดียวเท่านั้นชาวร็อกทั้งหลายที่รอคอยงานใหม่จาก  กันอย่างใจจดใจจ่อ เพราะล่าสุด Genie Records ได้เปิดตัว Teaser เพลงใหม่ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มที่ 6 ของบอดี้สแลมออกมายั่วใจชาวร็อคทั้งหลายให้ได้ตื่นเต้นกันเป็นที่เรียบร้อย ส่งสัญญาณให้ได้รู้กันว่าพวกเขากำลังจะกลับมาอีกครั้ง
ซึ่งเชื่อว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาด แฟนๆ ของบอดี้สแลม น่าจะได้ฟังซิงเกิ้ลใหม่ของพวกเขาแบบเต็มๆ ในช่วงเทศกาลดนตรี Big Mountain Music Festival 5 มัน ใหญ่ มาก หรือในช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน



ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ลูเนติค วงซ่าฝีมือแซ่บ คว้าแชมป์ โค้ก มิวสิค อวอร์ดส 2013

ประกาศผลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับสุดยอดวงดนตรีผู้ชนะเลิศในการประกวด สุดยอดเวทีการแข่งขันดนตรีสุดซ่าในตำนานของเมืองไทย โดยปีนี้ วงดนตรีผู้ชนะเลิศได้แก่ วงลูเนติค (Lunatic) ผู้ชนะเลิศที่ได้ร่วมแสดงดนตรีกับวง โปเตโต้ ในฐานะโค้กมิวสิกแอมบาสซาเดอร์บนเวทีรอบชิงชนะเลิศ พร้อมรับรายได้ร่วม 1 ล้านบาทกับการเซ็นสัญญาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ โค้ก ณ สตูดิโอ เซ็นเตอร์พ้อยท์ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก มร. คอสตาส เดลิอาลิส ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ พร้อมเหล่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านดนตรีร่วมตัดสินสุดยอดวงดนตรีตัวจริง ได้แก่ ต่อ-ซิลลี่ฟูลส์, โต้ง-พีโอพี และ มอย Believe Records โดยมี 9 วงดนตรีที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย แสดงดนตรีสุดเอ็กซคลูซีฟร่วมกับทีมไอดอลศิลปินชั้นแนวหน้าขวัญใจวัยรุ่นไทย ได้แก่วง 25 Hours, ลิปตา และ มายด์ ซึ่งให้เกียรติเป็นผู้ฝึกฝนตลอดระยะเวลาของการเวิร์คชอป งานนี้ได้รับความสนใจจากเหล่าแฟนคลับวัยรุ่นร่วมสนุกสุดมันส์กับประสบการณ์ทางดนตรีครั้งยิ่งใหญ่นี้กว่าหนึ่งล้านคนทั้งกิจกรรม on-ground และ online
มร. คอสตาส เดลิอาลิส ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เครื่องดื่มโค้กจัดทำ โค้ก มิวสิค อวอร์ดส 2013 เพื่อเป็นเวทีการแข่งขันดนตรีที่เปิดกว้างในการมอบโอกาสและประสบการณ์ทางดนตรีให้เยาวชนไทยได้แสดงพลังซ่าออกมาอย่างสร้างสรรค์ โดยเน้นไปที่การสร้างโอกาสและความร่วมมือทางดนตรีระหว่างวัยรุ่นผู้รักในเสียงดนตรี แฟนเพลง รวมทั้งโอกาสในการร่วมมือทางดนตรีกับศิลปินตัวจริง เราเห็นความสำคัญของดนตรีที่นอกจากเป็นสื่อกลางสร้างความสุขแล้ว ยังเป็นพลังมหัศจรรย์ที่ผลักดันให้เยาวชนไทยกล้าคิด กล้าทำ และแสดงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ ในครั้งนี้ เราเลือกจัดทำในรูปแบบกลุ่มออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์ก เนื่องจากเป็นช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้รับความสนใจมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดถึงกว่า 580 วง และตลอดกิจกรรมเราก็สร้างโอกาสให้ผู้เข้าประกวดสามารถเรียนรู้ สั่งสมประสบการณ์และทำงานร่วมกับศิลปินต่างๆ รวมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับวงดนตรีที่เข้าประกวดร่วมกัน"

สำหรับวง ลูเนติค วงผู้ชนะเลิศการประกวด โค้ก มิวสิค อวอร์ดส 2013 เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของวัยรุ่นที่ไม่เคยท้อถอยกับความฝันด้านดนตรีที่ตัวเองรักและศรัทธา หลังจากพวกเขาผิดหวังตกรอบคัดเลือก โค้ก มิวสิค อวอร์ดส 2010 แต่ด้วยความมุ่งมั่น และความพยายามที่ไม่ลดละ จึงได้กลับมาร่วมแข่งขัน โค้ก มิวสิค อวอร์ดส 2013 และคว้ารางวัลชนะเลิศไปครองอย่างเต็มภาคภูมิ
สมาชิกในวงลูเนติค ประกอบด้วย อู๋ นววิธ แซ่แต้ (นักร้องนำ) บอล อวิรุทธิ์ บึ้งชัยภูมิ (มือกีตาร์) ต๊ะ เพิ่มพงษ์ ชูพันธ์ (มือกีตาร์) ต้น วีรภัทร โพธิน (มือเบส) และ ผิว ธนา กระสินธ์ (มือกลอง) โดย อู๋ นววิธ แซ่แต้ นักร้องนำวงลูเนติค วงดนตรีผู้ชนะเลิศ โค้ก มิวสิค อวอร์ดส 2013 เผยถึงความรู้สึกว่า "รู้สึกดีใจมากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในปีนี้ เพราะตอนมาประกวดก็ไม่คาดหวังถึงรางวัล แค่ได้เข้ารอบไฟนอลทุกคนก็ดีใจมากแล้ว การได้มาเวิร์คชอปเป็นประสบการณ์ที่ดี ได้รู้จักเพื่อนๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทุกวงก็ฝีมือดีไม่แพ้กัน ทั้งนี้ต้องขอบคุณโค้ก และพี่ๆ วงมายด์ ทุกคนที่ให้โอกาสและแนะนำเทคนิคการเล่นดนตรีอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง อยากฝากให้วัยรุ่นไทยที่มีความฝันและรักในสิ่งที่ทำ ให้มุ่งมั่นให้ถึงที่สุด เพราะถ้าเรามุ่งมั่นตั้งใจทำแล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยเราก็ไม่เสียใจที่ได้ลงมือทำ"
เป้ บดินทร์ เจริญราษฎร์ นักร้องนำวงมายด์ 1 ใน 3 ทีมศิลปินไอดอลของ โค้ก มิวสิค อวอร์ดส 2013 ที่มาเป็นพี่เลี้ยงถ่ายทอดทักษะและฝึกฝนเทคนิคทางด้านดนตรีแบบเอ็กซคลูซีฟให้กับวงลูเนติค เผยถึงความประทับใจว่า "รู้สึกภูมิใจแทนน้องๆ ทุกคน ตลอดเวลาที่ฝึกซ้อมและใช้เวลาด้วยกัน เห็นถึงความตั้งใจ พัฒนาการทางดนตรีที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และทุกคนมีความพิเศษในตัวเอง ที่สำคัญคือมีความกล้าที่จะทำในสิ่งที่เรารัก ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนมีความกล้าและใช้อย่างสร้างสรรค์"
ปั๊บ พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข นักร้องนำวงโปเตโต้ เผยถึงความประทับใจว่า "ดีใจที่ได้เห็นวัยรุ่นกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ และการแข่งขันในครั้งนี้ถือว่าทุกวงเก่ง เล่นได้ดีมาก และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง การแข่งขันในครั้งนี้สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่แพ้หรือชนะ แต่อยู่ที่เรากล้าที่จะลองและทำให้ดีที่สุด อยากให้น้องๆ ทุกคนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ แบบนี้เอาไว้ และพัฒนาตนเองต่อไปเรื่อยๆ"
สำหรับสิ่งที่วงดนตรีชนะเลิศจะได้รับนั้น ทางโค้ก เตรียมนำวงดนตรีผู้ชนะเลิศเข้าร่วมทำงานดนตรี เพื่อเปิดโอกาสให้วัยรุ่นไทยได้สัมผัสกับประสบการณ์ทางดนตรีอย่างแท้จริง กับปรมาจารย์ชั้นเซียนด้านเสียงเพลงอย่างวง โปเตโต้ และยังได้มอบของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท พร้อมกับการได้เซ็นสัญญาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของโค้ก

ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook

เต้น การันตี หน้าสวยใจเสีย ส่ง ทองเนื้อเก้า แรง!

รับประกันว่าต้องแรงไม่แพ้ละครทุกเรื่องในปีนี้เป็นแน่แท้ เพราะเพียงแค่ออนแอร์ไปไม่กี่ตอน แต่ละคร ทองเนื้อเก้า ก็เรตติ้งพุ่งแรงแซงละครทุกเรื่องไปเรียบร้อย ฉะนั้นเชื่อแน่ว่าเพลงประกอบละครต้องฮอตฮิตไม่แพ้กัน ซึ่งเพลง หน้าสวย ใจเสีย ที่เจ้าแม่เพลงละครคนใหม่อย่าง เต้น นรารักษ์ ฝากเสียงร้องไว้ ก็กลายเป็นอีกหนึ่งเพลงที่หลายคนติดหูและติดใจในเนื้อหาของเพลงที่เข้มข้นจนเห็นภาพ ลำยอง ลอยมาตลอดเวลาที่ได้ฟัง
ซึ่งงานนี้ สาวเต้น บอกว่าเป็นปลื้มไม่น้อย เพราะหวังว่าหลายคนคงจะชอบ อีกทั้งเจ้าตัวยังเค้นอารมณ์ใส่เพลงนี้แบบสุดๆ ให้สมกับที่เป็นผลงานคุณภาพแห่งปีเลยทีเดียว


ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook





วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แนน The Voice Thailand Season 2 น่ารักและน่าหมั่นไส้!

เธอไม่ใช่คนหน้าใหม่ของรายการ The Voice Thailand เธอคือคนที่อกหักมานับครั้งไม่ถ้วน (จากคำบอกเล่าของเพื่อนฝูงและแฟนๆ ที่อัพเดทเรื่องราวให้) เธอกวนประสาทตั้งแต่กิริยาท่าทางไปจนถึงการร้องเพลง เธอสร้างความครื้นเครงแต่บางคนก็บอกว่า น่ารำคาญ และเธอผ่านรอบ Battle เข้าสู่รอบ Knock Out ของ The Voice Thailand Season 2 ด้วยการ Steal.... ชีวิตเธอช่างเฉียดฉิวและมีสีสันเสียเหลือเกิน
แนน ลลิตา จึงวัฒนกิจ หรือ แนน The Voice 2 คือคนที่สาวๆ อยากหมั่นไส้ และเป็นสาวที่หนุ่มๆ มากมายอยากรู้จักเธอมากที่สุดในตอนนี้
ความรั่วความฮาของแนน ฉายแววออกมาตั้งแต่รอบ Blind Audition กับเพลง New York ที่เธอเลือกมาร้อง ต้องยอมรับว่าเธอไม่ใช่นักร้องพรสวรรค์ แต่เธอรู้สึก "มันส์" จนกลายเป็นความมุ่งมั่นที่จะร้อง แม้กระทั่ง โค้ชโจอี้ บอย ที่หันมาเพื่อจะเลือกเธอ ยังเอ่ยทักว่า "ฉันจำเธอได้" เพราะเธอคือคนที่อกหักจากเวที The Voice Thailand ในปีแรกมาก่อนนั่นเอง
สาวมั่นรสแซ่บ กับประวัติไม่ธรรมดา
จากข้อมูลส่วนตัวของ แนน ที่รับรู้มาจากแฟนเพจของแนน facebook.com/nanthevoice2 ทำให้หลายคนเปลี่ยนทัศนคติในตอนแรกเกี่ยวกับเธอไปพอสมควร บางคนชื่นชมว่า "บ้าดี" นั่นเพราะเธอมีโอกาสทดลองทำมาหลายอย่าง แต่สุดท้ายเธอก็ต้องหันหลังให้กับทุกสิ่งที่เคยทำมา ทั้งการงานที่มีเกียรติและมั่นคง เพื่อมุ่งมั่นที่จะเป็นนักร้องตามเวทีล่าความสำเร็จ แม้จะยังไม่เคยประสบความสำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงเวที The Voice Thailand Season 2 ซึ่งก็ยังไม่มีใครบอกได้อีกว่าเธอจะไปได้ไกลแค่ไหน
"ถ้าบอกจะเชื่อมั้ยว่านางจบ BBA Major Finance. เกรด 3 กว่าๆ จบ 3 ปีครึ่งด้วย เห็นแบบนี้ ทำงานที่ไหนก็ไม่เกิน 6 เดือน ทำมาแทบทุกอย่าง ขาย Gold Future, ตลาดหุ้น, AE, นิตยสาร, แอร์โฮสเตส เจ็ทเอเชีย สิงคโปร์แอรไลน์ ช่วยงานที่บ้าน หรือก่อนจะมาร้องเพลงเต็มตัว นางก็ทำงานที่ Microsoft มาก่อนนะ
แล้วก็ขอบอกว่านางประกวด มาหลายเวทีมาก ตั้ง 15 First Stage Show จนรายการเจ๊งไปแล้ว ไปเดอะดาว เค้าก็ไม่ให้มันเจอพี่โจ้พี่ม้าพี่เพชร ไปเอเอฟ ตั้งแต่ AF4 ก็ตกรอบแรก AF 6,7 ,9 เข้ารอบ 50 คนตลอด แล้วก็ตกรอบ
แต่สุดท้ายก็นางก็ไม่เลิกตามความฝัน ของนาง จวบจนทุกวันนี้
ประกวดมาเป็น 10 ปี ทิ้งอาชีพ ที่คนอื่นว่าดีๆ แต่แนนไม่ทน เลือกที่จะมาร้องเพลงทุกคืน จ-อ ร้องตั้งแต่ร้านหมูกะทะยันผับไฮโซ สุดท้ายเพื่อนเราคนนี้ก็เป็นตัวอย่าง ของคนที่เลือกที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรักแล้วก็ประสบความสำเร็จ ดีใจแทนจริงๆ"

น่ารัก หรือน่ารำคาญ
แนน กลับขึ้นเวที The Voice Thailand Season 2 อีกครั้งในรอบ Battle ที่เธอต้องขับเคี่ยวกับ ริมมี่ นิดา ดูวาสาวที่มาพร้อมกับอาวุธครบมือในรอบแรก หลายคนมองว่าการปะทะกันของสองสาวในเพลง Like A Virgin นั้น ฝ่ายแนนน่าจะเสียเปรียบตรงที่เทคนิคและน้ำเสียงเป็นรองกว่าทุกด้าน ซึ่งทีสุดแล้วก็ไม่มีอะไรผิดคาด โค้ชโจอี้ บอย ตัดสินใจเลือก ริมมี่ ให้ไปต่อในรอบ Knock Out ด้วยเหตุผลว่า "นี่คือ The Voice ไม่ใช่รายการโชว์" แน่นอนว่าในคำตอบนั้นมีความเสียดายแฝงอยู่ เหมือนจะรู้ชะตาตัวเองเมื่อเธอถามว่า "ตกลงไม่มีใครเอาหนูแล้วใช่มั้ยคะ" จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อโค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม ผู้ชอบเชียร์มวยรอง มองเห็นความดีดดิ้นและจริตในการแสดงออกบนเวทีและต่อหน้าโค้ช จึงหยิบยื่นโอกาสให้เธอได้อยู่ในรายการอีกครั้งด้วยกฏ Steal และคารมไหวพริบ การต่อปากต่อคำกับโค้ชอันถือเป็นอีกหนึ่งสีสันของรายการ ก็ค่อยๆ ผ่านออกมาจากสาวคนนี้ คนที่ทำให้ใครๆ จดจำเธอจากลีลาและการแสดงออกเพียงไม่กี่อึดใจ
กระแสบนโลกออนไลน์หลังจบรายการหลั่งไหลไม่หยุดทั้งการพูดถึงผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ รวมถึงตัวของแนนเอง เสียงชื่นชมคละเคล้ากันไป แต่ที่ไม่น้อยไปกว่ากันคือเสียงวิจารณ์เชิงหมั่นไส้ว่าเธอดูจะ "เยอะ" เมื่ออยู่ต่อหน้าโค้ช การต่อปากต่อคำ การเล่นหัวหยอกล้อ หากใครมองไม่ออกว่าเป็นการสร้างสีสัน ก็จะตัดสินสาวคนนี้ทันทีว่า จริตเยอะเหลือเกิน
ไม่ว่าใครจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ขอให้ลองชมลีลาการร้อง การแสดงออกของเธอจากรอบ Battle ในวันนั้น แล้วตัดสินในใจกันเอาเองว่าที่สุดแล้ว สาวคนนี้คู่ควรและเหมาะสมกับจุดที่เธอกำลังยืนอยู่มากน้อยแค่ไหน


ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook

โอกาสเกิด! ของชาวร็อคมาแล้ว! ร่วมคัฟเวอร์กีตาร์ลุ้นรางวัลจาก แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม


Sanook! ขอชวนชาวร็อค ร่วมคัฟเวอร์กีตาร์ เพื่อค้นหาผู้โชคดีร่วมกิจกรรม Exclusive กับ  โดยส่งคลิปคัฟเวอร์กีตาร์เพลง ถ้ามันมี ของ แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม โดยไม่จำกัดไอเดียและลีลา พร้อมอัพโหลดด้วยตนเองที่
คลิปของใครเข้าตา แมว จิรศักดิ์ จะได้เป็นผู้โชคดีร่วมกิจกรรมแบบ Exclusive ที่สุด ส่งคลิปได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2556
โอกาสเกิดมาถึงแล้ว อย่าช้า!

ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

รวมพลคนน่าเสียดาย! มหกรรมคนเสียงดีที่พ่ายแพ้จาก The Voice Thailand Season 2

ดูไป ยิ้มไป เสียดายไป คืออารมณ์อันหลากหลายที่เกิดขึ้นหลังจากรอบ Battle ของ The Voice ThailandSeason 2 จุดพลุประเดิมเวทีกันไปเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะอารมณ์เสียดายอย่างสุดๆ ของผู้เข้าแข่งขันบางคนที่ทำให้ผู้ชมดราม่าน้ำตาซึมพร้อมคำถามมากมาย ว่าทำไมโค้ชจึงไม่เลือก ทำไมโค้ชที่เหลือจึงไม่ Steal (กติกาการแข่งขันในรอบ Battle ที่ผู้เข้าแข่งขันซึ่งแพ้ไปแล้วสามารถถูกโค้ชทีมอื่นดึงตัวไปร่วมทีมได้)
ลองมาดูกันว่า ผู้แพ้แต่ชนะใจผู้ชมจากรอบ Battle ชุดแรกที่ผ่านมา เขาและเธอเหล่านั้นมีใครกันบ้าง
เจนนี่ เสียงสวรรค์ ฉัน (อยาก) ร้องเพลงไทย
เธอถูกวางให้อยูู่ในวีคแรกของการออกอากาศ The Voice Thailand Season 2 ทำให้หลายๆ คนที่มาติดตามย้อนหลังอาจพลาดฟังเสียงของเธอในรอบ Blind Audition ที่เธอร้องเพลง Somewhere Only We Know ได้เป๊ะทุกอักขระและอารมณ์ เพราะเธอคือสาวอินเตอร์เต็มตัว เจนนี่ เจนนิเฟอร์ แล็คเกรน ลูกทีมสุดหวงของโค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม ชวดบันไดก้าวที่สามไปเพียงนิดเดียว เพราะเธอถูกวางตัวประกบกับ แบงค์ วัชระ กันธุ์ยาภรณ์ สมาชิกวง HRU ผู้มีทีเด็ดในการร้องเพลงสากลไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเด็กอินเตอร์ ผลคือเจนนี่ต้องจอดป้ายเพราะการดวลกับนักร้องชายในเพลงที่เป็นผู้ชาย..ผู้ชาย มากๆ อย่างเพลง When I Was Your Man เธอถูกกลบบทบาทให้เป็นเพียงแค่ลูกคู่
ผู้ชมหลายคนรอให้โค้ชที่เหลือกดปุ่มเพื่อ Steal แต่สิ่งที่คาดหวังก็ไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คล้อยหลังจากการ Battle ของเธอผ่านไป มีคอมเมนท์จากโลกออนไลน์พยามวิเคราะห์สาเหตุที่ เจนนี่ The Voice ต้องตกรอบ เสียงส่วนหนึ่งมองว่าการสื่อสารภาษาอังกฤษกับเจนนี่คือเรื่องยากสำหรับโค้ชที่จะเทรนให้เข้าใจ ดังเช่นความเห็นหนึ่งจากเฟซบุค แต่ที่เด็ดกว่านั้นคืออีกไม่กี่อึดใจ เจ้าตัวก็เข้ามาตอบเป็นภาษาไทยปนอังกฤษว่า "ฉันสามารถร้องเพลงไทยได้มากกว่า ช้าง ช้าง ช้าง" ซึ่งเธอบอกว่า การร้องเพลงไทยไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเธอ แต่ก็ยังทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มและคำขอบคุณทุกๆ ความเห็นทั้งบวกและลบ เรียกว่าเป็นผู้แพ้ที่สปิริทแรงกล้าและกำลังใจดีเยี่ยมจริงๆ
บีน พิน The Voice ของพวกเธอยังอีกยาวไกล
สองสาวเพื่อนซี้วัยเพียง 16 ปี กลายเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเธอต้องดวลความสามารถแบบรุ่นเล็กกับ ลูกพีช รพีพร ตันตระกูล โดยไม่มีใครคาดคิดว่า เด็กสาวใสๆ ที่ดูธรรมดาจะสามารถสะกดผู้ชมทุกคนด้วยเพลง วอน ในฉบับร้องและเรียบเรียงใหม่ ไม่ว่าฟังเสียงเอื้อนก็ไพเราะจับใจ หรือการประสานเสียงก็ทำได้อย่างลื่นไหลและลงตัว เป็นโชว์ที่ทุกคนบอกว่า ชมแล้วเพลินที่สุด จนถึงขณะนี้ บนไทม์ไลน์และสเตตัสทั้งเฟซบุคและทวิตเตอร์ ถึงกับพร้อมใจกันติดแท็ก #วอน ควบคู่ไปกับแท็ก #ThevoiceTH เพียงเพื่อจะได้แชร์ เนื้อเพลง วอน แบบไม่ให้ตกกระแส
แม้จะตกรอบไปค่อนข้างเร็ว แต่พรสวรรค์ของทั้ง บีน และ พิน ตามที่โค้ชคิ้มทิ้งท้ายไว้ให้เป็นกำลังใจ ก็เชื่อแน่ว่า อนาคตบนเส้นทางสายดนตรียังเปิดโอกาสต้อนรับพวกเธอเสมอ
ชาวร็อคไม่ใช่แมสเซนเจอร์ กอล์ฟ ผู้แพ้ที่ไม่มีใครดูถูก
ร็อคเสียงแหบเสน่ห์ กับร็อคสเตจกว้างทรงพลัง เมื่อต้องมาอยู่บนเวทีเดียวกันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะต้องมาห้ำหั่นกันเอง แต่ กอล์ฟ เลิศวิทย์ ชาญนิคม ก็ทำให้พลังของชาวร็อคดูหนักแน่นและมีหลากหลายมากขึ้น หลังจากดวลกับ แซม เสริมศาสตร์ เดอโรซาริโอ ในเพลง พูดค่อยๆ โค้ชก้อง ผู้ดูแลและถ่ายทอดวิชา ยังถึงกับเอ่ยปากว่า "มันโคตรๆ" แม้ท้ายที่สุดจะต้องเหลือตัวจริงเพียงหนึ่ง แต่ทุกคนก็ยังปรบมือให้กำลังใจหนุ่มร็อคจากภูเก็ตคนนี้อย่างท่วมท้น ส่าวนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องราวของเขาเพิ่งจะก่อกระแสดราม่าเล็กๆ หลังจากถูกโค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม หยอดคำแซวแบบไม่ค่อยเหมาะสมว่าเหมือนพนักงานส่งเอกสาร แถมเห็นหน้าแล้วยังไม่กล้าวางกระเป๋าเพราะกลัวจะเป็นผู้ร้าย สร้างความไม่พอใจแก่ชาวเน็ตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพอสมควรทีเดียว

ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook

ร็อค-รัก ระเบิดรอบ Battle ข่มกันสนุกประเดิมรอบใหม่ The Voice Thailand Season 2

คุ้มค่าการรอคอย กับศึก Battle ยกแรกของ The Voice Thailand Season 2 ระหว่างลูกทีมปะทะลูกทีม ที่จะต้องชี้ชะตาว่าใครจะอยู่ ใครจะไป และใครจะถูกโค้ชทีมอื่น Steal ตามกฏกติกาใหม่ที่เริ่มใช้ในปีนี้ เพื่อเข้าสู่รอบ Knock Out ต่อไป
โดยในวีคแรกของรอบ Battle ลูกทีมของโค้ชทั้งสี่ ต้องงัดทีเด็ดมาดวลกันเพื่อซื้อใจให้โค้ชเป็นฝ่ายเลือกบ้างหลังจากรอบ Blind Audition เหล่าผู้เข้าแข่งขันได้เป็นฝ่ายเลือกโค้ชมาแล้ว
ประเดิมที่ชาวร็อคพลังสูง แซม เสริมศาสตร์ เดอโรซิริโอ และ กอล์ฟ เลิศวิทย์ ชาญนิคม ปล่อยหมัดใส่กันในเพลง พูดค่อยๆ ชนิดว้ากกันมันส์สะใจเรียกเสียงรบมือสนั่นฮอลล์ ซึ่งความจัดจ้านแหลมคมและชัดเจนของ แซม เข้าตาบรรดาโค้ชมากกว่า กลายเป็นผู้ตกรอบคนแรกที่ต้องเดินลงจากเวทีไป
ด้านลูกทีมของโค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม แน่นอนว่าหนักไปทางสาวๆ เสียงสวยน่ารัก จึงถือเป็นโชว์พักหู แต่ดูแล้วแม้โจทย์เพลงจะซอฟท์แต่ก็ไม่มีใครยอมใคร โชว์ที่หลายๆ คนพูดถึงหนีไม่พ้นสองสาว ลูกพีช รพีพร ตันตระกูล และคู่หู บีน-พิน นภสร ชัยพรเรืองเดช-พินทุสร งามพรวิภา ที่สร้างคามประทับใจในเพลง วอน ที่ไม่ว่าจะเป็นลูกเอื้อนหรือการประสานเสียงทำได้สะกดใจผู้ชมทางบ้านและในห้องส่งจนยากจะตัดสินใจหากใครคนหนึ่งต้องตกรอบ แต่ที่สุดแล้ว ก็เป็น ลูกพีช ที่ใช้ลูกเอื้อนเป็นต่อให้เข้าสู่รอบต่อไป
โชว์ที่น่าเสียดายที่สุดและชวนช็อคที่สุด ยกให้โชว์ Battle ระหว่างลูกทีมของโค้ชคิ้มอีกคู่หนึ่งคือ เจนนี่ เจนนิเฟอร์ แล็คเกรน และ แบงค์ วัชระ กันธุ์ยาภรณ์ ที่ความสามารถในการใช้น้ำเสียงในเพลง When I Was Your Man เพอร์เฟคท์ทั้งคู่ แต่การประกบคู่ของสุดยอดฝีมือในการร้องเพลงสากลก็ทำให้พลังที่ข่มกว่าเล็กๆ และอารมณ์ร่วมที่เข้าถึงกว่า ของ แบงค์ ยังทำให้เขายึดพื้นที่บนเวที The Voice Thailand ต่อไป เรียกว่ามีคนเสียน้ำตาให้กับความเสียดายที่ เจนนี่ ไปไม่ถึงรอบ Knock Out กันไม่น้อยทีเดียว ท่ามกลางหลายคนที่ยังหวังให้โค้ชคนอื่น Steal สาวเจนนี่ แต่ที่สุดแล้วสาวลูกครึ่งเสียงดีก็ต้องเดินจากเวทีไปอย่างน่าเสียดายที่สุด
การเทรนที่เข้มข้นของคู่ Battle ที่ผ่านมาทำให้หลายคนวางใจว่าการแข่งขันในปีนี้น่าจะมีทีเด็ดจากทั้ง 3 คู่ที่ผ่านไป รวมถึงคู่ปะทะระหว่าง เมย์ ฝนพา ปราโมช ณ อยุธยา และ ปุยฝ้าย ชวัลลักษณ์ ดิเรกวัฒนานุ ของทีมโค้ชแสตมป์ ในเพลง ชั่วฟ้าดินสลาย สองสาวเสียงหวานงัดเอาความสามารถมาโชว์ได้อย่างกลมกล่อม แต่ในที่สุด ว่าที่คุณแม่อย่าง เมย์ ก็เข้าตาโค้ชแสตมป์กว่า แต่โชคยังเข้าข้างสาวปุยฝ้ายเมื่อโค้ช โจอี้ บอย ขอ Steal ไปร่วมทีม จึงยังมีโอกาสอยู่ในรอบ Knock Out ต่อไป
ขณะที่หนุ่มชินจัง พีท ปิติพงษ์ ผาสุกยืด และ กิ๊ฟ อัญชิษฐา พงษ์ศิริยาภรณ์ กับการทำให้เพลงอย่าง รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เป็นเพลงคู่ที่ไพเราะก็เรียกเสียงเฮได้ไม่น้อย แต่ลูกทีมของโค้ชแสตมป์ทั้งสองคนก็ทำให้โค้ชหนักใจไม่น้อยเพราะพลังของฝ่ายชายดูจะเหนือกว่านิดๆ แต่ที่สุดแล้วโค้ชกลับเลือก กิ๊ฟ เพื่อเข้าสู่รอบ Knock Out ด้วยเหตุผลที่ว่า สาวกิ๊ฟยังรักษาอารมณ์ได้อย่างคงที่ไม่มีไหลไปตาม พีท ที่ดูเหมือนจะโชว์เทคนิคเฉพาะตัวมากเกินไปซึ่งอาจยังไม่โดนใจโค้ชแสตมป์นัก
ไฮไลท์เด็ดของวีคนี้ อยู่ที่การ Battle ของสองสาวสุดเก๋จากทีมโค้ช โจอี้ บอย หนึ่งคือสาวเสียงดีว่าที่มาแรงตั้งแต่รอบที่แล้ว ริมมี่ นิดา ดูวา และสาวรั่วน่ารักกวนอารมณ์ แนน ลลิตา จึงวัฒนกิจ ที่มาพ่นไฟความมีจริตจะกร้านใส่กันอย่างเมามันส์ในเพลง Like A Virgin ซึ่งแน่นอนว่า ริมมี่ มีภาษีที่เหนือกว่าในการร้องเพลงสากลทั้งเทคนิคและอารมณ์ร่วม แต่สาวแนนก็อาศัยประสบการณ์และลูกเล่นแปลกๆ มันส์ๆ มาข่มกันแบบไม่มีใครยอมใคร หลายคนยกให้คู่นี้เป็นคู่เด็ดประจำสัปดาห์ ท่ามกลางความหนักใจของโค้ชโจอี้ซึ่งที่สุดแล้วก็ตัดสินใจเลือก ริมมี่ อยู่ในทีมต่อไปด้วยเหตุผลว่า นี่คือเวที The Voice แต่ถึงกระนั้น ความแก่นเซี้ยวของแนน กลับเข้าตาโค้ชคิ้มให้ตัดสินใจ Steal เข้าทีม เพราะชอบมวยรองและถูกจริตหญิงแบบโค้ชคิ้มนั่นเอง


ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ร็อคปะทะเดือด! เชือดเฉือนกันมันส์หยดรอบ Battle

แค่วีคแรกก็รู้เรื่อง! The Voice Thailand Season 2 เดินทางมาถึงรอบที่สองกับรอบ Battle ที่หลายคนตั้งตารอคอยแบบไม่ปล่อยให้หยุดพัก แถมในรอบนี้จะเริ่มนำกติกาใหม่ที่เรียกว่า Steal มาใช้ทันที ซึ่งผู้ชมจะตื่นเต้นและลุ้นระทึกยิ่งขึ้นว่าใครที่จะถูกฉุดให้หลุดพ้นจากหุบเหว เพราะผู้เข้าแข่งขันที่พ่ายในเวที Battle แต่ละคู่ยังจะมีโอกาสได้เข้าสู่ในรอบต่อไปด้วยกติกาการ Steal แต่ใครจะโชคดีถูกโค้ช Steal งานนี้ยังบอกกันไม่ได้
ประเดิมคู่แรกของรอบ Battle กับกติกาพิเศษนี้ด้วยแมทช์ไฮไลท์ที่ทำเวทีในรอบ Battle ลุกเป็นไฟด้วยพลังอำนาจแห่งเพลงร็อคจาก หนุ่มแซม เสริมศาสตร์ เดอโรซาริโอ และ หนุ่มกอล์ฟ เลิศวิทย์ ชาญนิคม จากทีมของ โค้ชก้อง ที่ฟาดฟันเชือดเฉือนกันประโยคต่อประโยคอย่างถึงพริกถึงขิง ซึ่งแน่นอนว่าจะสามารถติดตรึงใจแฟนๆ รายการชนิดลืมไม่ลงเลยทีเดียว
นอกจากจะลุ้นว่าใครจะเป็นผู้ชนะในแมทช์นี้แล้ว ยังต้องมีลุ้นให้ได้เสียวกับกติกาการ Steal พร้อมกับการ Battle อีกหลายคู่ที่มันส์ไม่แพ้กัน จะสนุกสนานและมันส์แค่ไหนต้องติดตามชม The Voice Thailand Season 2 อาทิตย์ที่  20  ตุลาคมนี้เวลา 17.45 - 19.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook


8 เรื่องเด็ด เผ็ดมันส์สุดๆ จาก The Voice Thailand Season 2 รอบ Blind

แม้จะจบรอบ Blind Audition ไปเรียบร้อยแล้ว แต่หลายคนยังคงอินอยู่กับความสนุก ความประทับใจ และความฮาจากบรรดาโค้ชทั้งสี่รวมถึงผู้เข้าแข่งขัน The Voice Thailand Season 2 จนต้องมีการคัดเลือก 8 เรื่องราวที่เด็ดสุดในรอบที่ผ่านมา เป็นการทบทวนดูว่า มีช่วงไหนที่ยังอยู่ในความประทับใจของผู้ชมบ้าง




ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook

วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

โค้ชคิ้ม หยอกแรงหรือแกล้งขำๆ กับลูกทีมโค้ชก้อง

กลายเป็นโค้ชเจ้าของประเด็นที่ถูกพูดถึงยิ่งกว่านักร้องเข้ารอบทั้งหมด เพราะหลังจากการแข่งขันรอบ Blind Audition ของ The Voice Thailand Season 2 ผ่านไป ก็เกิดเสียงวิจารณ์คำพูดคำจาของโค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม จนกลายเป็นประเด็นเห็นต่างทางอินเทอร์เน็ตไปเรียบร้อยแล้ว
เรื่องราวที่ชาวเน็ตจับกลุ่มตั้งข้อสังเกต เกิดขึ้นเมื่อ กอล์ฟ เลิศวิทย์ ชาญนิคม ขึ้นเวทีมากับ เพลง Use Somebody ก่อนจะมีโค้ชเพียงหนึ่งเดียวที่สนใจดึงเข้าร่วมทีมคือโค้ช ก้อง สหรัถ ซึ่งในระหว่างพูดคุยแนะนำตัว โค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ก็หวังจะสร้างสีสันด้วยการแซวผู้เข้าแข่งขันเป็นเรื่องปกติ แต่อาจจะมีถ้อยคำที่ฟังดูจิกกัดรุนแรงตามสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดูเหมือนพนักงานส่งเอกสาร หรือดูบุคลิกน่ากลัวจนแซวว่า เห็นหน้าแล้วไม่กล้าวางกระเป๋าไว้
จากเรื่องนี้ หลายคนมองต่างมุมออกไป บ้างก็ว่าเป็นเรื่องปกติของโค้ชคิ้มที่ชอบแซวคนอื่นๆ ด้วยคำพูดแรงๆ บ้างก็ว่า ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ อาจไม่เหมาะสมและควรจะคิดก่อนพูดบ้าง บ้างก็จริงจังว่า คำพูดแบบนี้ในบางประเทศไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะการพูดจาลักษณะนี้เป็นได้ทั้ง racist (การเหยียดหยาม) และ crime หรือการให้ร้ายผู้อื่นว่าเป็นอาชญากร ซึ่งหากผู้ชมฟังและเห็นจนเป็นพฤติกรรมปกติ ก็อาจจะทำให้ความรุนแรงทางคำพูดเหล่านี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปในที่สุด
ทั้งนี้ ยังไม่มีเหตุผลจากทางฝั่งของโค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม สำหรับกรณีนี้ แต่หลายคนเชื่อว่า โค้ชคนเก่งไม่น่าจะออกมาตอบโต้หรือชี้แจงอะไร เพราะเป็นสิทธิ์ขาดของทางรายการที่ได้ตัดสินใจนำคำพูดดังกล่าวออกอากาศไปแล้ว

ติดตามและฟังเพลงฮิตได้ที่ : http://radio.sanook.com/
ที่มาของข่าว : sanook